รับจำนำรถ มีเล่ม ไม่มีเล่ม

การเลือกซื้อรถกระบะ ให้ตรงกับการใช้งาน

การเลือกซื้อรถกระบะ

ปัจจุบันรถกระบะนับว่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงมาก เนื่องจากมีจุดประสงค์ในการใช้งานได้หลากหลายแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ซื้อ นอกเหนือจากใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้ว ยังมีการนำมาใช้งานแทนรถยนต์นั่งอีกด้วย ดังนั้น ใครที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถกระบะสักคันก็ควรเลือกรถกระบะให้ตรงกับการใช้งานจริงมากที่สุด ดังนั้นเราจะพามาดูองค์ประกอบในการเลือกซื้อรถกระบะที่สำคัญ ว่าควรพิจารณากันตรงไหนบ้าง ไปดูกันเลย

องค์ประกอบในการเลือกซื้อรถกระบะ

1. ขนาดของรถกระบะ

รถกระบะหรือรถปิกอัพที่จำหน่ายกันทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะเป็น รถกระบะขนาดกลาง ที่เหมาะกับการใช้งานเชิงพาณิยช์และการขนส่งสินค้าได้สะดวกสบาย หรือหากใครที่ต้องการบรรทุกน้ำหนักมากๆก็สามารถดัดแปลงเพิ่มเติมได้ ดังนั้นหากเราต้องการจะเลือกซื้อรถกระบะเพื่อนำมาใช้งานแทนรถยนต์นั่งแล้วละก็ ด้วยขนาดและการขับขี่ในเมืองอาจจะไม่สะดวกและคล่องตัวเหมือนรถเก๋ง 

แบบตัวถังของรถกระบะ 

2. แบบตัวถังของรถกระบะ 

แบบตัวถังของรถกระบะมักจะมีรูปแบบหลัก ๆ แบ่งตามตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ได้แก่

รถกระบะตอนเดียวมี 2 ประตู โดยสารได้ 2 ที่นั่ง

รถกระบะ 2 ประตู หรือที่เรียกว่า รถกระบะตอนเดียว ส่วนใหญ่เน้นใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก เนื่องจากมีพื้นที่ด้านหลังกระบะกว้างขวาง นิยมนำไปต่อเติมเพื่อบรรทุกได้เพิ่มขึ้นเช่น ต่อหลังคา, ต่อแผงทำรถคอก, กระบะพื้นเรียบ (Flat Deck) และไม่มีกระบะ (Cab Chassis) หรือเรียกหัวกระสือ เพื่อนำไปติดตั้งตู้แช่เย็น หรือทำเป็นรถสไลด์

รถกระบะตอนครึ่ง 2 ประตู โดยสารได้ 2 ที่นั่ง

รถกระบะตอนครึ่ง 2 ประตู จะเพิ่มส่วนของแค็บด้านหลังขึ้นมา ทำให้พื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น โดยบานประตูแค็บสามารถเปิดได้เพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ตัวกระบะจะมีพื้นที่กว้างลดลง โดยทั่วไปแล้วแค็บหลังของรถกระบะตอนครึ่ง 2 ประตูนั้น ไม่สามารถโดยสารได้ตามกฎหมาย แต่หากจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่งก็สามารถจดได้ถ้ามีการดัดแปลงต่อหลังคาและติดตั้งที่นั่งแบบถาวรกับตัวรถนิยมนำมาเป็นรถรับส่ง แนะนำว่าหากใครที่มีความต้องการต้องเดินทางเกิน 2 คนเป็นประจะละก็ ควรเลือกรถกระบะ 4 ประตูจะตอบโจทย์กว่า  

รถกระบะสองตอน 4 ประตู โดยสารได้ 5 ที่นั่ง

ถือว่าเป็นรถกระบะที่มีการใช้งานอเนกประสงค์ไม่ว่าจะใช้สำหรับโดยสารหรือขนส่งก็ดี มีการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในตัวรถมากมายรวมถึงมีพื้นที่ที่สามารถนั่งโดยสารกว้างขวางขึ้นกว่ารถกระบะตอนครึ่ง เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และยังมีพื้นที่กระบะไว้ใช้สำหรับขนของอีกด้วย เรียกว่าสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์จริงๆ ทำให้รถกระบะสองตอน 4 ประตูเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน 

3. รูปแบบการตกแต่งของตัวรถกระบะ

นอกจากการซื้อมาใช้งานโดยทั่วไปของรถกระบะแล้ว บางท่านอาจะมีความชอบโดยส่วนตัวในการเลือกซื้อรถกระบะโดยดูจากรูปแบบการตกแต่งของตัวรถ อาทิเช่น การตกแต่งแนวสปอร์ตหรือแอดเวนเจอร์ และส่วนใหญ่รถรูปแบบนี้จะมีราคาสูงกว่ารุ่นปกติ เนื่องจากอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งเพิ่มเติมนั่นเอง มักไม่เน้นเรื่องของสมรรถนะในการขับขี่เท่าไหร่

4. ความสูงของตัวรถกระบะ

นอกจากรูปแบบของตัวถังกับรูปแบบการตกแต่งของตัวรถแล้ว ความสูงของตัวรถก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อที่สำคัญเช่นกัน โดยรถกระบะยี่ห้อหลักในไทยจะนิยมรุ่นตัวเตี้ยซึ่งมีความสูงมาตรฐาน แต่ก็จะมีบางรุ่นที่มีแบบยกสูงให้เลือก ข้อดีของรถกระบะยกสูงคือ เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ข้ามผ่านอุปสรรคได้มากกว่ารุ่นมาตรฐาน เช่นการขับขี่ในถนนที่มีน้ำท่วมสูง ทัศนวิสัยการมองเห็นชัดเจนขึ้นจากตำแหน่งเบาะนั่งที่สูงขึ้น รวมถึงราคากระบะยกสูงก็มักมีราคาสูงกว่ารถกระบะทั่วไปอีกด้วย

5. เครื่องยนต์/แรงม้า

เครื่องยนต์เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อรถกระบะอย่างมาก โดยดูจากวัตถุประสงค์ในการใช้งานเช่น หากเลือกรถกระบะใช้งานแทนรถยนต์นั่ง ก็จะไม่เน้นเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงมากนัก เน้นความทนทานและความประหยัด แต่หากรถมีเครื่องยนต์ใหญ่กว่าจะเพิ่มความทนทานได้มากกว่า ซึ่งรถกระบะในปัจจุบันจะเป็นเครื่องดีเซลคอมมอนเรลหัวฉีดแรงดันสูง ขนาดดาวน์ไซซ์ อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน  โดยมีตั้งแต่ขนาด 1.9 ลิตร เทอร์โบ, 2.0 ลิตร เทอร์โบ, 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่, 2.3 ลิตร เทอร์โบ, 2.4 ลิตร เทอร์โบ, 2.8 ลิตร เทอร์โบ, 3.0 ลิตร เทอร์โบ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของบริษัทผู้ผลิต

ทั้งนี้ ขนาดความจุเครื่องยนต์ที่มากอาจไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะต้องมีกำลังสูงกว่าขนาดความจุน้อยเสมอไป เพราะมีการใช้เทอร์โบมาชดเชยความจุกระบอกสูบที่ลดลงอีกด้วย 

ข้อแนะนำในการเลือกเครื่องยนต์ให้ดูที่ลักษณะการใช้งานและพฤติกรรมในการขับขี่เป็นหลัก หากไม่เน้นพละกำลังและความเร็ว ก็สามารถเลือกเครื่องยนต์ที่พละกำลังน้อยได้โดยจะมีราคาต่ำกว่าอีกทั้งยังประหยัดค่าเชื้อเพลิงอีกด้วย

6. ระบบเกียร์

ระบบเกียร์หรือระบบส่งกำลังมักแบ่งออกเป็นแค่ 2 แบบ คือ

– เกียร์ธรรมดา (Manual Transmission หรือ MT) กระบะจะนิยมใช้เกียร์ธรรมดาเพื่อสมรรถนะในการบรรทุกหรือลากจูงได้มากกว่า และยังช่วยในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองอีกด้วย แต่ก็จะมีความซับซ้อนในการขับขี่มากกว่า 

– เกียร์อัตโนมัติ (Auto Transmission หรือ AT) เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ และง่ายต่อการดูแลรักษา

7. ระบบขับเคลื่อน

รถกระบะจะมีระบบขับเคลื่อนหลักๆ 2 แบบ คือ

– 4×2 ขับเคลื่อน 2 ล้อ

– 4×4 ขับเคลื่อน 4 ล้อ

โดยจะเลือกระบบขับเคลื่อนแบบไหน ให้คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลักเช่น ต้องขับบนถนนทั่วไปก็เลือกระบบขับเคลื่อน 2 ล้อก็เพียงพอแล้ว 

สรุป เป็นอย่างไรกันบ้างกับสาระดีๆที่เรานำมาฝากกัน องค์ประกอบในการเลือกซื้อรถกระบะ ให้ตรงกับการใช้งานจริงมากที่สุด ช่วยให้เราพิจารณาคุณสมบัติการใช้งานรถกระบะได้ตรงกับความต้องการจริงมากขึ้น รวมถึงเปรียบเทียบรายละเอียดของอุปกรณ์หลักๆของรถกระบะที่แตกต่างกันไป ดังนั้นอย่าลืมแวะมาศึกษารายละเอียดให้ดีเสียก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อรถกระบะซักคัน 

ติดต่อสอบถามลายละเอียดเกี่ยวกับ >>> รับจำนำรถ <<< คลิก

ติดต่อจำนำผ่านไลน์ <<< คลิก

ดูขั้นตอนการเตรียมเอกสารการจำนำรถ  <<< คลิก