การจำนำรถเหมาะสำหรับใครที่มีรถ แต่ไม่มีเงิน แต่รู้หรือไม่ว่า การจำนำรถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ แบบโอนเล่ม และ แบบไม่โอนเล่ม ใครที่กำลังสงสัยว่าสองแบบนี้หมายถึงอะไร มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร รวมถึงเราควรเลือกจำนำแบบไหนที่เหมาะสมที่สุด วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักการจำนำรถทั้งสองแบบกันเลย
จำนำรถแบบโอนเล่ม
จำนำรถแบบโอนเล่ม หมายถึงการนำเล่มทะเบียนรถมาขอสินเชื่อจากทางผู้รับจำนำ และเมื่อได้รับการอนุมัติเงินแล้ว ทางผู้รับจำนำ จะเก็บเล่มทะเบียนรถไว้เป็นหลักประกัน และทำการโอนเปลี่ยนชื่อในเล่ม จากเดิมที่เราเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ของรถ เปลี่ยนเป็นชื่อผู้รับจำนำนั้น ๆ แทน และชื่อเจ้าของรถเดิมจะถูกเปลี่ยนเป็น ผู้ครอบครอง ในการโอนเล่มจะต้องดำเนินการที่กรมขนส่ง และเมื่อผู้จำนำผ่อนชำระยอดหนี้ครบถ้วนแล้ว ทางผู้รับจำนำก็จะโอนกรรมสิทธิ์ของรถเป็นชื่อเจ้าของเช่นเดิม
ข้อดีของการจำนำรถแบบโอนเล่ม
1. มีอัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่ากว่า : เนื่องจากมีการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ของรถจากเจ้าของเดิมเป็นของผู้รับจำนำ ทำให้มีหลักประกันที่ชัดเจน คุ้มค่าต่อการรับจำนำ
2. อนุมัติวงเงินได้สูงกว่า : การจำนำรถแบบโอนเล่มหากผู้จำนำรถผิดนัดชำระหนี้ครบตามเงื่อนไข ผู้รับจำนำสามารถยึดรถได้ทันที ด้วยเงื่อนไขที่มีความเสี่ยงต่ำ ผู้รับจำนำจึงสามารถอนุมัติวงเงินที่สูงกว่าการจำนำแบบอื่นได้
3. ผ่อนชำระสบาย : การจำนำรถสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนได้นานสูงสุด 72 เดือน อัตราดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนสบายๆ
4. ยิ่งเป็นรถใหม่ยิ่งได้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ราคาประเมินสูง : แน่นอนว่าการรับจำนำรถที่มีสภาพใหม่กว่า ย่อมได้ราคาประเมินสูงกว่า รวมถึงหากรถมีอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี ผู้รับจำนำยิ่งมีข้อเสนอดีๆสำหรับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าแน่นอน
ข้อเสียของการจำนำรถแบบโอนเล่ม
1. มีขั้นตอนการดำเนินการที่ยุ่งยากกว่า
2. มีค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์
3. ในการคำนวณค่างวดรายเดือนจะรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) 7% ไปด้วย
จำนำรถแบบไม่โอนเล่ม
จำนำรถแบบไม่โอนเล่ม หมายถึง เมื่อนำเล่มทะเบียนรถมาขอสินเชื่อรถแลกเงินจากทางผู้รับจำนำ และเมื่อได้รับการอนุมัติเงินแล้ว ทางผู้รับจำนำ จะเก็บเล่มทะเบียนรถไว้เป็นหลักประกัน แต่จะไม่มีการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ ดังนั้น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ของรถดังกล่าวจะยังเป็นชื่อของเจ้าของรถเดิม และเมื่อผู้จำนำผ่อนชำระยอดหนี้ครบถ้วนแล้ว ทางผู้รับจำนำก็จะคืนเล่มทะเบียนรถให้
ข้อดีของการจำนำรถแบบไม่โอนเล่ม
1. มีขั้นตอนการดำเนินการไม่ยุ่งยาก : เหมาะกับใครที่ต้องการเงินด่วน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องไปที่กรมขนส่ง เพียงยื่นเอกสารต่างๆรวมถึงเล่มทะเบียนรถให้กับผู้รับจำนำเท่านั้น จากนั้นก็รออนุมัติเงินได้เลย
2. อนุมัติเงินเร็ว : เมื่อผู้จำนำยื่นเอกสารครบถ้วน ก็สามารถรอผลพิจารณาอนุมัติเงินได้เพียงไม่กี่นาที
3. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโอนเล่ม
4. ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
5. รถคันที่จำนำจะไม่มีประวัติการเปลี่ยนเจ้าของ เหมาะสำหรับใครที่มีแผนจะขายรถหลังผ่อนเสร็จ เพราะสามารถต่อรองราคาขายได้สูงกว่า
ข้อเสียของการจำนำรถแบบไม่โอนเล่ม
1. แม้การจำนำรถแบบไม่โอนเล่มจะไม่นำภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามารวมด้วย แต่อัตราดอกเบี้ยก็อาจจะสูงกว่าการจำนำแบบอื่น
2. วงเงินอนุมัติน้อยกว่าแบบโอนเล่มเนื่องจาก ไม่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ของเล่มทะเบียนรถ ทำให้ผู้รับจำนำมีความเสี่ยงในระดับหนึ่งในการรับจำนำ
เลือกจำนำรถแบบโอนเล่ม หรือแบบไม่โอนเล่มดี ?
แบบโอนเล่ม เหมาะกับผู้ที่มีความพร้อมในการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ อาทิเช่น ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าเดินทางและค่าดำเนินการอื่นๆอีกด้วย แต่การจำนำรถแบบโอนเล่มส่วนใหญ่จะใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ทำให้ผู้เข้ารับจำนำสามารถวางแผนการชำระเงินได้ หรือบางที่รับจำนำจะใช้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกโดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละที่ รวมถึงสามารถเลือกผ่อนได้ในระยะยาวอีกด้วย
แบบไม่โอนเล่ม เหมาะกับผู้ที่มีความต้องการใช้เงินด่วน รวมถึงกังวลเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ของรถแต่กระบวนการขอสินเชื่อจะรวดเร็วกว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการโอนและค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม เพิ่มโอกาสในการขายรถในราคาที่สูงกว่าสำหรับใครที่มีแพลนจะขายรถหลังจากผ่อนชำระเสร็จ ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเป็นแบบลดต้นลดดอก รวมถึงสามารถเลือกผ่อนได้ในระยะยาวได้เช่นกัน
สรุป ไม่ว่าจะเลือกจำนำรถแบบโอนเล่ม หรือจำนำรถแบบไม่โอนเล่ม ล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ไม่ได้มีแบบไหนดีไปกว่ากัน ดังนั้นเราควรเลือกรูปแบบการจำนำที่เหมาะสมกับความพร้อมของผู้เข้ารับจำนำมากที่สุด
ติดต่อสอบถามลายละเอียดเกี่ยวกับ >>> รับจำนำรถ <<< คลิก
ติดต่อจำนำผ่านไลน์ <<< คลิก
ดูขั้นตอนการเตรียมเอกสารการจำนำรถ <<< คลิก
